วันอังคารที่ 26 มกราคม พ.ศ. 2559

ปลัด สธ. นำผู้บริหารทั่วประเทศ ดูงาน คลินิกชะลอไตเสื่อมต้นแบบของประเทศ “คลองขลุงโมเดล”

ปลัดกระทรวงสาธารณสุข นำคณะผู้บริหารส่วนกลางและส่วนภูมิภาคทั่วประเทศ ศึกษาดูงาน คลินิกชะลอไตเสื่อม “คลองขลุงโมเดล” นวัตกรรมต้นแบบของประเทศไทย ชะลอความเสื่อมของไตในผู้ป่วยเบาหวาน-ความดันโลหิตสูง ภายใต้การดูแลของสหวิชาชีพ ด้วยอาหาร การออกกำลังกายและการใช้ยาที่เหมาะสม เพื่อช่วยยืดเวลาไตวายจนต้องล้างไตออกไปได้อีก 7 ปี ช่วยประหยัดค่าล้างไตทั่วประเทศปีละนับหมื่นล้านบาท
วันนี้ (26 มกราคม 2559) นายแพทย์โสภณ เมฆธน ปลัดกระทรวงสาธารณสุข นำคณะผู้บริหารจากส่วนกลางและภูมิภาคทั่วประเทศ  เยี่ยมชมการดำเนินงาน  คลินิกชะลอไตเสื่อม “คลองขลุงโมเดล” อ.คลองขลุง จ.กำแพงเพชร ที่เป็นต้นแบบความสำเร็จในการชะลอความเสื่อมของไต ในผู้ป่วยโรคเบาหวานและความดันโลหิตสูง ภายใต้การดูแลอย่างใกล้ชิดของทีมสหวิชาชีพ โดยแนะนำด้านอาหาร การออกกำลังกาย และการใช้ยาที่เหมาะสม   เพื่อช่วยยืดเวลาไตเสื่อมไปได้อีก  7  ปี   ช่วยลดค่าใช้จ่ายในการล้างไตที่สูงกว่า  5-6  พันล้านต่อปี ในผู้ป่วยหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ และมีแนวโน้มจะสูงมากขึ้นไปเรื่อยๆ    เพื่อนำรูปแบบไปขับเคลื่อนภายในแต่ละเขตสุขภาพต่อไป ซึ่งการดูแลผู้ป่วยโรคเบาหวานและความดันโลหิตแบบเข้มข้น จะช่วยลดค่าใช้จ่ายในการล้างไตในผู้ป่วยทุกสิทธิการรักษาทั่วประเทศ ได้ปีละนับหมื่นล้านบาท
 
ข้อมูลจากสมาคมโรคไตแห่งประเทศไทย คาดการณ์ว่าคนไทยป่วยเป็นโรคไตวายเรื้อรังประมาณ 8 ล้านคน ในจำนวนนี้เป็นผู้ป่วยไตวายระยะสุดท้ายประมาณ  2  แสนคน และมีผู้ป่วยรายใหม่เพิ่มปีละประมาณ  1 หมื่นคน สำหรับสาเหตุของโรคไตวายเรื้อรัง ร้อยละ 36.6 มาจากโรคเบาหวาน  ร้อยละ 26.8 มาจากโรคความดันโลหิตสูง ไม่ทราบสาเหตุ ร้อยละ 22.8   สำหรับจังหวัดกำแพงเพชร มีผู้ป่วยโรคไตวายเรื้อรังประมาณ 2 หมื่นคน มีผู้ป่วยโรคไตเรื้อรังระยะสุดท้ายเพิ่มขึ้นปีละ 15-20 เปอร์เซ็นต์ มีบริการฟอกเลือดด้วยเครื่องไตเทียม 382 คน เป็นผู้ป่วยฟอกเลือดฉุกเฉิน 216 คน ล้างไตทางหน้าท้อง 382 คน ซึ่งผู้ป่วยโรคไต 1 คนค่าใช้เฉลี่ยอยู่ที่ 3 หมื่นบาทต่อเดือน ที่สำคัญคือคุณภาพชีวิตต่ำลง เสี่ยงต่อการติดเชื้อแทรกซ้อนและไม่สามารถทำงานได้ตามปกติ จึงได้เกิดนวตกรรม “คลองขลุงโมเดล” จากการสนับสนุนของกระทรวงสาธารณสุขและสถาบันโรคไตภูมิราชนครินทร์เป็นคลินิกโรคไตเรื้อรังแบบบูรณาการ มีทีมสหวิชาชีพได้แก่ พยาบาล ประเมินอาการ บันทึกข้อมูล ดัชนีมวลกายรอบเอว แพทย์รักษาเพื่อให้ได้เป้าหมายตามคำแนวทางการรักษา เภสัชกรตรวจสอบวิธีการใช้ยาและปรับตามค่าความเสื่อมของไต  สอนอ่านฉลาก   หลีกเลี่ยงการใช้ยาแก้ปวดกลุ่มเอ็นเสด (NSAID)  โภชนากร/นักกําหนดอาหาร สอนการรับประทานอาหารสําหรับโรคไต อาหารโปรตีนตํ่า อาหารลดเค็ม
 
นอกจากนี้ ยังมีเครือข่ายเยี่ยมบ้านผู้ป่วยโรคไตเรื้อรัง  เจ้าหน้าที่สาธารณสุขในโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลแห่งละ 3-5 ท่าน ดูแลผู้ป่วยโรคไตเรื้อรังร่วมกับ อสม. ในพื้นที่รับผิดชอบ ด้วยบันได 4 ขั้น ป้องกันโรคไต ประกอบด้วย  1. ประเมินการรับประทานอาหารผู้ป่วย บันทึกรายการอาหารและให้คําแนะนําการปรุงอาหารให้เหมาะสมกับผู้ป่วยโรคไตเรื้อรัง  2. วัดความดันโลหิต เก็บข้อมูล 3. ตรวจสอบการใช้ยา 4. ติดตามการออกกําลังกาย  ผลการศึกษาพบความเสื่อมของไต ลดลงช้ากว่าอัตราการเสื่อมปกติของไต  ช่วยยืดเวลาล้างไตออกไปได้จากเดิม 7 ปี ออกไปเป็น 14 ปี  ช่วยลดค่าใช้จ่ายในผู้ที่ต้องล้างไตที่มีประมาณ 1,000 คน โดยค่าล้างไตประมาณ200,000 บาท ต่อคน ต่อปี ช่วยลดค่าล้างไต 200 ล้านบาท ต่อปี  
****************************************  26 มกราคม 2559

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น